ดูบทความ
ดูบทความโหมดต่างๆของรีโมทแอร์
โหมดต่างๆของรีโมทแอร์
ต้องรู้!!! โหมดบน ”รีโมทแอร์” ปรับง่ายๆ เย็นสบายแน่นอน
เมื่อเราพบเจอกับอากาศร้อน สิ่งที่เราทำเพื่อเป็นการแก้ปัญหานั่นก็คือการเปิดแอร์ แต่ว่าในบางครั้ง การที่เราเปิดแอร์ เราจะพบว่าแอร์ไม่เย็นสักที หรือบางทีก็เย็นช้ามาก ซึ่ง #ปัญหาแอร์ไม่เย็น นี้ ก็สามารถเกิด ขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุมาก ๆ แต่ก็มีสาเหตุยอดฮิต ที่มักจะเกิดขึ้นได้เสมอในทุก ๆ เวลาและมักจะเป็นสาเหตุแรก ๆ นั่นก็คือการปรับโหมดแอร์ผิด หรือการไม่รู้จักโหมดต่าง ๆ ในการทำงานของแอร์ และในวันนี้ CondoNewb ก็จะมาอธิบาย ว่าโหมดต่าง ๆ บนรีโมทแอร์นั้นจะมีอะไรบ้าง ในแต่ละโหมดของแอร์จะทำงานกันอย่างไร จะเป็นอย่างที่เพื่อน ๆ เคยเข้าใจหรือไม่ ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลยครับ
#รู้จักโหมดการทำงานของบนรีโมทแอร์กันก่อน
เคล็ดลับการปรับแอร์ให้เย็นและประหยัดไฟคือการเลือกโหลดแอร์ให้เหมาะกับอุณภูมิห้องและความต้องการของเราครับ โดยโหมดการทำงานหลักที่มีในแอร์ทั่วไป ผู้ผลิตแอร์ในปัจจุบันได้ใส่โหมดการทำงานพื้นฐานมาให้ โดยโหมดการทำงานที่ว่าบนรีโมทแอร์นี้มีอยู่ด้วยกันราว ๆ 4 โหมดการทำงาน ได้แก่ โหมด Auto, Cool, Fan, Dry ซึ่งในในแอร์รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์รุ่นที่มาพร้อมด้วยฟังชั่นเสริมมากมาย ก็อาจจะมีอีกหนึ่งโหมดการทำงานเพิ่มเข้ามานั่นก็คือโหมด Heat โดยในแต่ละโหมดการทำงานก็ถูกออกแบบให้มีการทำงานที่ต่างกันออกไป เพื่อให้ได้ผลที่ต่างกัน รายละเอียดของแต่ละโหมดก็มีดังต่อไปนี้
1. รีโมทแอร์โหมด Auto
โหมด AUTO ส่วนตัวผมไม่เคยใช้ในแอร์บ้านเลย ส่วนใหญ่จะกด AUTO เวลาใช้งานแอร์รถยนต์เท่านั้น ซึ่งหลัการการทำงานนั้นก็จะเหมือนกันเลยครับ คือเมื่อเรากดโหมด AUTO บนรีโมทแอร์ แอร์ของเราก็จะทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ โดยจะควบคุมอุณหภูมิและความแรงของพัดลมเอง โดยที่เราไม่ต้องไปคอยปรับครับ
โหมดการทำงาน อาจมีการจะสลับกันเองระหว่างโหมด Cool กับ Dry เพื่อให้อุณหภูมิของห้องนั้นเป็นไปตามที่เราได้ตั้งเอาไว้ ถ้าหากอุณภูมิต่ำเกินไป ก็จะปิดโหมด Cool แล้วทำให้อุณภูมิอุ่นส่วน ส่วนถ้าอุณภูมิสูงเกินไป โหมด Cool ก็จะทำงานขึ้นมาเองครับ
2. รีโมทแอร์โหมด Cool
โหมด Cool ก็แปลตรงตัวตามชื่อเลยครับ เมื่อกดปุ่ม Cool บนรีโมทแอร์ เครื่องก็จะทำความเย็น ควบคุณอุณภูมิห้องให้ต่ำตามที่เราตั้งไว้ครับ ซึ่งในเมืองไทย โหมด Cool จะเป็นโหมดหลักที่เราใช้กันอย่างถาวร เอาจริง ๆ บางคนแม้กระทั่งผมเอง ซื้อแอร์มาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี ก็ไม่เคยกดโหมดอื่นนอกจากโหมด Cool เลยครับ
3. รีโมทแอร์โหมด Dry
โหมด Dry นี่ก็เป็นอีกโหมดที่เราน่าจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันครับ โดยความหมายของโหมด Dry ก็จะเป็นตามคำแปลเลยก็คือ จะทำให้อากาศแห้ง ลดความชื้นในอากาศนั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลที่พบมา โหมดนี้จะมีประโยชน์ต่อเมื่อมีการควบแน่นของความชื้นในอากาศที่เกิดขึ้นบนแผงอีวาปอเรเตอร์หรือแผงทำความเย็น เพราะโดยหลักการพื้นฐานของแอร์ใช้ทำความเย็น จะใช้สารทำความเย็นในระบบที่ถูกทำให้ไหลไปตามท่อเพื่อให้มันเป็นตัวกลางในการถ่ายเทความร้อน ซึ่งจะทำให้แผงที่บริเวณที่อยู่ในชุดคอยล์เย็นจะมีอุณหภูมิต่ำมาก จนความชื้นในอากาศพากันมาควบแน่นและกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ไหลออกไปตามท่อน้ำทิ้ง
ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไป การใช้งานของแอร์ในบ้านหรือในคอนโดก็ไม่จำเป็นต้องใช้โหมดนี้หรอกครับ เห็นว่าใช้กันแพร่หลายเฉพาะในห้องที่ต้องการควบคุมความชื้นในอากาศเท่านั้น เป็นดหมดที่มีเอาไว้ก็ไม่ได้เสียหาย แต่ก็ไม่รู้จะได้ใช้ในโอกาสไหนนั่นเเหละเนอะ
4. รีโมทแอร์โหมด Fan
เมื่อเรากดรีโมทแอร์ในโหมด Fan หรือโหมดพัดลม เครื่องปรับอากาศของเราจะถูกตัดการทำงานในส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์ออกไป และเหลือเพียงตัวเครื่องด้านในที่ยังคงเป่าลมออกมาอยู่ ซึ่งโหมดแฟนนอกจากจะตัดการทำงานของคอมเพรซเซอร์แล้ว ยังไปตัดการจ่ายน้ำยาแอร์ที่จะเป็นตัวทำความเย็นอีกด้วย ฉะนั้นลมที่ออกมาจากเครื่องปรักอากาศก็จะเป็นลมที่มีอุณหภูมิเทียบเท่ากับอุณภูมิห้อง ซึ่งเราจะใช้ก็ต่อเมื่อเกิดปัญหากลิ่นอับในแอร์ หรือต้องการเพิ่มอุณภูมิของห้องก็ได้เช่นกันครับ
ซึ่งปุ่มนี้เป็นปุ่มเจ้าปัญหามาก มีหลาย ๆ คนที่สับสนระหว่างโหมด Cool และ Fan เพราะเห็นสัญลักษณ์กันมาหลายต่อหลายคนแล้ว จริงอยู่ที่มันเป็นสัญลักษณ์รูปพัดลม ก็พาลให้นึกไปถึงการทำความเย็นได้ แต่ต้องอย่าลืมว่าโหมด Cool ที่สัญลักษณ์เป็นเกล็ดหิมะนั้นย่อมต้องเย็นกว่า ใครที่กำลังเจอปัญหาแอร์ไม่เย็น แอร์ออกแต่ลม เปลี่ยนโหมดนี้ก่อนเลยเป็นอันดับแรกครับ
5. รีโมทแอร์โหมด Heat
โหมดสุดท้าย เป็นโหมดบนรีโมทแอร์ที่ส่วนตัวผมไม่คิดจะไปแตะต้องมันเลย เนื่องจากโหมด Heat นั้นคือโหมดที่จะมาทำความร้อนหรือเพิ่มอุณหภูมิภายในห้องของเรานั่นเอง หลักการทำงานก็จะใช้ Heat Pump เป็นตัวทำความร้อน สลับการทำงานให้เครื่องปรับอากาศนั้นปล่อยลมร้อนเข้ามาภายในห้องนั่นเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องปรักอากาศที่ขายในประเทศเขตร้อนแบบในบ้านเรามักจะไม่นำโหมดนี้มาใส่เอาไว้ แต่ถ้าเกิดมีโหมดนี้ให้ลองสังเกตสัญลักษณ์รูปพระอาทิตย์บนรีโมทแอร์ แล้วแนะนำว่าอย่าไปแตะต้องมันเชียว แค่อากาศปกติเมืองไทยก็ร้อนพอแล้วเนอะ
วิธีการดูแลรักษารีโมทแอร์ที่ถูกต้อง
บ่อยครั้งที่เรากดรีโมทแอร์ไม่ติด เราก็มักจะตบรีโมทแอร์แบบแรง ๆ เพื่อให้เรากดปุ่มแอร์ติด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนี่เป็นวิธีที่ผิดมาก เพราะนอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้รีโมทแอร์พังเร็วขึ้นอีกด้วย ซึ่งในบางครั้งที่เรากดรีโมทไม่ติดนั้น อาจจะมีสาเหตุมาจากแค่เรายิงอินฟราเรดจากรีโมทไม่ตรงกับตัวรับเซ็นเซอร์ หรืออาจจะแค่ถ่านหมดก็ได้ และสำหรับวิธีการดูแลรักษารีโมทแอร์ที่ถูกต้องนั้น จะมีดังนี้
1. เลิกพฤติกรรมการโยนรีโมทแอร์
กลับมาบ้านปุ๊บ เปิดแอร์ โยนรีโมท แล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนเป็นอะไรที่สุขมาจริง ๆ แต่รู้ไหมว่าการโยนรีโมทนี่เสี่ยงมากที่จะทำให้รีโมทแอร์พังได้ง่าย ๆ เลย ไอ้โยนลงบนที่นอนน่ะไม่เป็นไร แต่เคยเจอไหมที่รีโมทแอร์เด้งจากที่นอนลงไปจูบกับพื้น แตกเป็นเสี่ยง ๆ แบบนั้นงานเข้าแน่ ยิ่งถ้าเครื่องปรับอากาศของใครควบคุมการเปิด-ปิดที่ตัวเครื่องไม่ได้ยิ่งเเล้วใหญ่เลย
2. ถอดถ่านรีโมทแอร์ เมื่อไม่ได้ใช้
ไม่ใช่แค่รีโมทแอร์เท่านั้นนะ แต่พวกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ถ่ายทั้งหมดที่ไม่ได้ใช้บ่อย ๆ เราก็ควรที่จะถอดถ่านออกทั้งหมด เนื่องจากว่าพอนาน ๆ เข้า ถ่านจะปล่อยของเหลวออกมาและส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะรีโมทแอร์นั้นเสียหายได้ ตรงนี้ใครก็ตามที่ไม่ค่อยอยู่ห้อง ซื้อคอนโดตากอากาศ แนะนำให้ถอดถ่านรีโมทแยกเก็บไปเลยครับ
3. อย่าเคาะตัวรีโมทแอร์
การเคาะรีโมทนี่เป็นการแก้ปัญหาแบบบ้าน ๆ ที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมันผิดมาก! จริงอยู่ที่ว่าบางครั้งมันได้ผลเวลาที่อยู่ดี ๆ รีโมทแอร์หรือรีโมทอื่น ๆ ก็เกิดกดไม่ติดขึ้นมา แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องเคาะ เเค่เปิดฝาปิดถ่านเเล้วหมุน ๆ ถ่านนิดนึงก็ใช้ได้เเล้ว การเคาะนี่นอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรเท่าที่ควรเเล้ว ยังอาจจะทำให้รีโมทเสียหายไม่ต่างจากการทำรีโมทตกพื้นอีกด้วย
เกล็ดความรู้เกี่ยวกับแอร์ยังมีอีกเยอะตามไปได้ที่ บทความเกี่ยวกับแอร์ และถ้าสนใจ #แอร์บ้านราคาถูก หรือมีความประสงค์จะล้างแอร์เข้าไปดูได้ที่ https://www.facebook.com/goodairservice/ หรือ https://www.facebook.com/persistence group
(หรือ โทร 0-2540-0225,08-2410-8999)
07 กรกฎาคม 2564
ผู้ชม 60458 ครั้ง